Hello! Somebody…
ใคร ๆ ก็เป็น “Somebody” ในโลกออนไลน์ได้ เมื่อเราทุกคนกำลังก้าวเข้าสู่ยุค “Creator Economy” หรือระบบเศรษฐกิจ ที่เหล่านักสร้างสรรค์ หรือครีเอเตอร์ เป็นผู้ขับเคลื่อน โดยครีเอเตอร์อีโคโนมีนี้ เป็นธุรกิจที่จัดได้ว่า บูมที่สุด รุ่งโรจน์ และรุ่งเรืองที่สุด แถมยังจะแรงข้ามปี และแรงต่อเนื่องไปอีกนาน เพียงคุณมีความคิดสร้างสรรค์ แพสชั่น (ความหลงใหลในสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นพิเศษ) และสไตล์ที่เป็นของตัวเอง
ถ้าใจรักจริงก็ไม่มีอะไรยากเกินไปใช่ไหมล่ะ ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับครีเอเตอร์อีโคโนมีให้ลึกซึ้งกันก่อน…
“Creator Economy” คืออะไร?
ครีเอเตอร์อีโคโนมีคือ ระบบเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ จากการที่เหล่าครีเอเตอร์ใช้ความคิดสร้างสรรค์ มาทำเป็นคอนเทนต์ให้กับสินค้า และบริการในโลกออนไลน์ โดยเจ้าไอเดียหรือความคิดสร้างสรรค์นี่ละ ที่เป็น “จุดเด่น” หรือเป็น “แม่เหล็ก” ดึงดูดสำคัญ ที่ทำให้คนหันมาสนใจและติดตาม จึงไม่ต้องแปลกใจ ที่ระบบเศรษฐกิจที่ว่านี้ จะพัฒนาและเติบโตอย่างรวดเร็ว
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ครีเอเตอร์อีโคโนมีเติบโตเร็วเกินคาด จากข้อมูลของ Adobe รายงานว่า ตั้งแต่ปี 2020 มีครีเอเตอร์เพิ่มมากขึ้นถึง 165 ล้านคน ส่งผลให้ปัจจุบันทั่วโลกมีครีเอเตอร์รวมกันถึง 300 กว่าล้านคน จากการสร้างแพลตฟอร์ม ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเป็นครีเอเตอร์ได้หมด ไม่ว่าจะเป็น “Solopreneur” ผู้ประกอบการรายใหม่ ที่สามารถสร้างธุรกิจ หรือสร้างรายได้ด้วยตัวคนเดียวจากเทคโนโลยีดิจิทัล โดยไม่จำเป็นต้องมีลูกจ้าง
“Foodie” ผู้หลงใหลในเรื่องอาหารการกินจนกลายเป็นนักรีวิวเรื่องอาหารตัวยง และเป็นหนึ่งใน “อินฟลูเอนเซอร์” ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก เพราะชื่นชอบในรสนิยม และไลฟ์สไตล์ของเขาเหล่านั้น ไปจนถึง “Youtuber” และ “สตาร์ตอัพ” ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ฯลฯ ทุกคนล้วนเป็นหนึ่งในครีเอเตอร์ ที่สามารถใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดีย ในการสร้างความรู้ในเรื่องต่าง ๆ การรีวิวสินค้า และบริการ ยิ่งนำเสนอแบบรู้จริงในเรื่องที่ตนสนใจอย่างลึกซึ้ง ก็จะมี FC และเจ้าของสินค้าให้ความไว้วางใจเป็นอย่างสูง จนสามารถสร้างรายได้ในแบบ ที่ว้าว…ว้าว…ว้าว จนกลายเป็นอาชีพได้เลย
“Creator Economy” คือ “Future of Work”
ไม่ผิดเลย ถ้าจะบอกครีเอเตอร์อีโคโนมีคือ แหล่งงานในแห่งอนาคต จากอาชีพใหม่บนโลกออนไลน์ ที่มีอิสระทางความคิด จากการนำเสนอตัวตน และสามารถสร้างคุณค่าให้ตัวเอง สินค้า และโลกใบนี้ได้อย่างสร้างสรรค์ การโพสต์อะไรที่เป็นบวก สร้างแรงบันดาลใจ และพลังความคิดดี ๆ จะทำให้คุณจะไปได้ไกลเท่าไกล
จากที่เคยเป็นงานพาร์ตไทม์ การเป็นครีเอเตอร์อาจกลายเป็นงานประจำที่มีความสุข เผลอ ๆ ยังจะมีคนทั่วโลกรักคุณอย่างมหาศาล และยิ่งถ้าคุณเป็นคนยุค Millennials หรือ Gen Y (กลุ่มคนที่เกิดช่วงปี พ.ศ. 2527–2539) รู้ไว้เลยว่า คุณมีทางลัด! จากข้อมูลของ Adobe เผยว่า ครีเอเตอร์อีโคโนมีเติบโตอย่างเป็นประวัติการณ์ จากครีเอเตอร์ซึ่งเป็นชาวมิลเลนเนียลส์ ที่ครองตลาดถึง 42% (ข้อมูลปี 2022)
“Millennials” กำลังหลักของ “Creator Economy”
คำจำกัดความของชาวมิลเลนเนียลส์คือ จะมีอายุระหว่าง 24-37 ปี และชอบอยู่ในโลกดิจิทัล โดยส่วนใหญ่ใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่าน “สมาร์ตโฟน” เรียกได้ว่า โตมาในยุคเปลี่ยนผ่าน จากอะนาล็อกสู่ดิจิทัล เป็นคนมีเหตุมีผล ถ้าจะสนับสนุนแบรนด์ใด จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับแบรนด์นั้น ๆ ในเชิงลึก เพราะหนึ่งในวิธีสร้างคุณค่าให้ตัวเองคือ การทำงานอย่างไม่ฉาบฉวย อันจะนำมาซึ่งความสุขในการทำงานอย่างแท้จริง
โดยรวมแล้ว พบว่า ครีเอเตอร์ ที่สร้างคอนเทนต์เป็นประจำ หรือใช้เวลากว่า 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการสร้างคอนเทนต์จะมีความสุขมากที่สุด โดยครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ส่วนใหญ่ระบุว่า การสร้างและแชร์คอนเทนต์ออนไลน์เป็นช่องทางในการปลดปล่อยความคิด จากการเสนองานที่สร้างสรรค์ ซึ่งจะทำให้พวกเขาสุขใจกว่าช่องทางอื่น ๆ
การได้เป็น “Somebody” ที่มีตัวตน แม้จะไม่ใหญ่มากบนโลกออนไลน์ ที่หมุนเร็วยิ่งนักนั้น ถือเป็นผลพลอยได้ของการทำงานหนัก เพราะที่สุดแล้ว การได้มีอิสระ และมีโอกาสสร้างพลังความคิดบวก ที่ประชากรโลกสามารถโยงใยต่อยอดกันได้แบบไร้พรมแดนต่างหากคือ การได้ร่วมสร้างครีเอเตอร์อีโคโมให้ยั่งยืน และมีความสุขอย่างแท้จริง
Source: https://news.adobe.com/news/news-details/2022/Adobe-Future-of-Creativity-Study-165M-Creators-Joined-Creator-Economy-Since-2020/
Tag: Creator Economy, Content Creator, Solopreneur, Influencer, Millennials, Gen Y, ธุรกิจรุ่งปี 2023